Upskill
Reskill
ConicleOne
ConicleVERSE
AICompanion

โลกการทำงานในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา รูปแบบธุรกิจก็ปรับเปลี่ยนตามไปด้วย ทำให้ทักษะที่เคยจำเป็นในอดีตอาจไม่เพียงพออีกต่อไป คำว่า Upskill และ Reskill จึงกลายเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่แค่ในหมู่คนทำงาน แต่ยังรวมถึงองค์กรทุกขนาดที่ต้องการอยู่รอดและเติบโต การทำความเข้าใจว่า Upskill และ Reskill คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับทุกคน และทุกองค์กรที่ต้องการปรับตัวให้ทันกับอนาคต
Upskill คือ การพัฒนาหรือเพิ่มพูนทักษะเดิมที่พนักงานมีอยู่แล้วให้สูงขึ้น เชี่ยวชาญมากขึ้น หรือทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถทำงานในตำแหน่งปัจจุบันได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น หรือพร้อมสำหรับความรับผิดชอบที่สูงขึ้นในสายงานเดิม การ Upskill เน้นการต่อยอดความรู้ความสามารถที่มีอยู่ให้แข็งแกร่ง และตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดงานที่เปลี่ยนแปลงไป การ Upskill จึงช่วยให้พนักงานไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
การ Upskill คือการเพิ่มพูนทักษะเดิมให้เก่งกาจยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับงานที่ซับซ้อนหรือความท้าทายใหม่ ๆ ในสายงานเดิม ตัวอย่างของการ Upskill ที่พบเห็นได้บ่อย ได้แก่
Reskill คือ การเรียนรู้ทักษะใหม่ทั้งหมดที่แตกต่างไปจากทักษะเดิมที่พนักงานมี เพื่อให้สามารถเปลี่ยนไปทำงานในตำแหน่งใหม่หรือสายงานใหม่ที่องค์กรต้องการ หรือเพื่อปรับตัวให้เข้ากับลักษณะงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การ Reskill มักเกิดขึ้นเมื่อทักษะเดิมของพนักงานอาจไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป หรือเมื่อองค์กรต้องการบุคลากรที่มีทักษะในด้านใหม่ ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ การ Reskill จึงเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทั้งกับตัวพนักงานและองค์กร
การ Reskill คือการเรียนรู้ทักษะชุดใหม่ที่แตกต่างจากเดิม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบทบาทงานใหม่หรือการเปลี่ยนสายอาชีพ ตัวอย่างของการ Reskill ที่น่าสนใจ มีดังนี้

ในโลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือแม้แต่สถานการณ์ที่ไม่คาดฝันต่าง ๆ การหยุดนิ่งอยู่กับที่เท่ากับเป็นการถอยหลัง ทั้งพนักงานและองค์กรจำเป็นต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง การทำ Upskill และ Reskill จึงไม่ใช่แค่กิจกรรมเสริม แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ทุกคนและทุกองค์กรสามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว การลงทุนในการ Upskill และ Reskill จึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต
การที่องค์กรส่งเสริมและสนับสนุนให้พนักงานได้ Upskill และ Reskill อย่างจริงจังนั้น ไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อตัวพนักงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลบวกกลับมาสู่องค์กรในหลายมิติ ช่วยสร้างความแข็งแกร่งและความพร้อมในการเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ
เมื่อพนักงานมีทักษะที่เป็นที่ต้องการในตลาดและหลากหลาย องค์กรย่อมมีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้น สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะพนักงานที่มีทักษะใหม่ ๆ ยังเป็นแหล่งกำเนิดของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า
การที่องค์กรลงทุนในการพัฒนาพนักงานผ่านการ Upskill และ Reskill แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความมุ่งมั่นที่จะให้พนักงานเติบโตไปพร้อมกับองค์กร ทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและผูกพันกับองค์กรมากขึ้น ช่วยลดอัตราการลาออกของพนักงานที่มีความสามารถ และยังดึงดูดคนเก่ง ๆ ให้อยากเข้ามาร่วมงานด้วย การ Reskill เปิดโอกาสให้พนักงานได้ลองสิ่งใหม่ ๆ
พนักงานที่ได้รับการ Upskill จะทำงานในหน้าที่เดิมได้ดีขึ้น มีผลงานที่มีคุณภาพมากขึ้น ส่วนพนักงานที่ได้รับการ Reskill ก็สามารถปรับเปลี่ยนไปทำงานในส่วนที่ขาดแคลน หรือมีความต้องการสูงได้ ทำให้องค์กรโดยรวมมีผลิตภาพที่สูงขึ้น และมีความคล่องตัวในการปรับโครงสร้าง หรือรูปแบบการทำงานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที
องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการ Upskill และ Reskill พนักงานอย่างต่อเนื่อง จะถูกมองว่าเป็นองค์กรที่ทันสมัย ใส่ใจในการพัฒนาบุคลากร และให้ความสำคัญกับการเติบโตของพนักงาน สิ่งนี้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ทั้งในสายตาของพนักงานปัจจุบัน พนักงานในอนาคต ลูกค้า และคู่ค้า การลงทุนใน Upskill และ Reskill จึงเป็นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

เพื่อให้การลงทุนในการ Upskill และ Reskill พนักงานเกิดประโยชน์สูงสุดและเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม องค์กรควรมีแนวทางในการดำเนินการอย่างมีแบบแผนและเป็นระบบ การวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนจะช่วยให้การพัฒนาทักษะเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร โดยมีแนวทาง ดังนี้
เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์หาช่องว่างของทักษะ (Skill Gap) ภายในองค์กรว่า ทักษะใดบ้างที่ยังขาดหายไป หรือทักษะใดที่จำเป็นต้องพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายทางธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต จากนั้นจึงกำหนดว่าทักษะใดควรทำ Upskill และทักษะใดจำเป็นต้อง Reskill พนักงานกลุ่มใดบ้าง
เมื่อทราบทักษะที่ต้องการแล้ว ขั้นต่อไปคือการออกแบบโปรแกรมการเรียนรู้ที่เหมาะสม ซึ่งอาจมีหลากหลายรูปแบบ เช่น การจัดฝึกอบรมภายใน, การส่งพนักงานไปอบรมหลักสูตรภายนอก, การเรียนรู้ออนไลน์ผ่านคอร์สต่าง ๆ, ระบบพี่เลี้ยง (Mentoring), หรือการเรียนรู้จากการลงมือทำจริง (On-the-job Training) ควรเลือกวิธีที่สอดคล้องกับเนื้อหาและผู้เรียนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการ Upskill หรือ Reskill
ระบบ Learning Management System (LMS) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การบริหารจัดการโปรแกรม Upskill และ Reskill เป็นไปอย่างมีระบบและสะดวกสบาย LMS ช่วยในการนำส่งเนื้อหาการเรียนรู้ ติดตามความคืบหน้าของผู้เรียน ทำการประเมินผล และรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงโปรแกรมต่อไป ทำให้การ Upskill และ Reskill วัดผลได้ชัดเจน
การ Upskill และ Reskill จะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยการสนับสนุนจากผู้บริหาร และการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งในองค์กร พนักงานควรได้รับการกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และองค์กรควรมีระบบให้รางวัลหรือยกย่องพนักงานที่มุ่งมั่นในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ
การทำ Upskill และ Reskill บุคลากร คือการลงทุนสำคัญเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยที่ทำให้การพัฒนาทักษะเหล่านี้เป็นเรื่องง่าย มีทิศทาง และวัดผลได้ CONICLE พร้อมเป็นที่ปรึกษาและให้บริการ ระบบ Learning Management System (LMS) ที่ตอบโจทย์การพัฒนาคนในองค์กรของคุณ ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.02-430-6699 Facebook : CONICLE หรือ Line : @conicle
Related Posts
ไม่มี Article ที่เกี่ยวข้อง

33 Space, Pradipat 17, Samsennai, Phayathai, Bangkok 10400, Thailand


©2025 Conicle Co., Ltd. All Rights Reserved.